
อยากขายบ้าน จะเลือกเอเจ้นยังไงดี

(ยาวหน่อย อ่านเถอะดีจริงๆ นะ!!!)

เพราะความที่ไม่อ่าน เห็นว่ายาว อาจทำให้คุณพลาด


เลือกเอเจ้นที่สังกัดบริษัท เพราะว่าหากเกิดปัญหาจากตัวเอเจ้น เราสามารถติดตามตัวได้ เนื่องจากบริษัทต้นสังกัดจะต้องมีข้อมูลของเอเจ้นผู้นั้นอยู่ และประการสำคัญต้องดูว่าเป็นบริษัทที่เชื่อถือได้ ไม่ใช่บริษัทที่ตั้งขึ้นด้วยตัวเอเจ้นเพียงลำพัง

หากต้องการที่จะใช้บริการเอเจ้นอิสระ ควรขอดูโปรไฟล์การทำงาน เช่น Page facebook line โซเชี่ยลต่าง ๆ ที่เป็นโปรไฟล์ของเอเจ้นท่านนั้น ๆ เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเป็นมืออาชีพจริง ๆ ซึ่งจะต้องมีทรัพย์ทีขาย และ ผลงานในการปิดการขายอย่างต่อเนื่อง

เข้าไปดูข้อมูลโปรไฟล์ของบริษัทที่เอเจ้นสังกัด ว่ามีตัวตน มีสถานที่ตั้ง มีกิจกรรมการทำงานเคลื่อนไหว หรือได้รับการรับรองจากสถาบันคุณวุฒวิชาชีพ (สคช.)

เข้าไปตรวจเช็คโปรไฟล์ของเอเจ้น ว่ามีการเคลื่อนไหวในการทำงานหรือไม่ เช่น ทรัพย์ในมือที่มีขาย , การปิดการขายโอนกรรมสิทธิ์ให้กับผู้ซื้อผู้ขาย

ระวังถ้อยคำโฆษณาชวนเชื่อ เช่น “ขายเร็ว ขายไว ขายกับเรา” ในโลกความเป็นจริงเป็นไปไม่ได้ หากขายได้เร็ว ได้ไว แสดงว่าขายได้ทุกทรัพย์ ป่านนี้คงรวยไปแล้ว และคงไม่มีเอเจ้นท่านอื่น ๆ ทำงานในสายอาชีพนี้ได้อีก

ทดสอบเอเจ้น หากมีการติดต่อเพื่อฝากขายทรัพย์ ระหว่างยังไม่ตัดสินใจเลือกเอเจ้น ให้ทดลองแจ้งไปว่า ขณะนี้ท่านได้ลงนามสัญญาแต่งตั้งเอเจ้นบริษัทอื่นแล้ว ถ้าเอเจ้นท่านนั้นตอบกลับมาว่า “ไม่เป็นไรครับ ถ้าจบสัญญาแล้วยังขายไม่ได้ รบกวนนึกถึงผม ให้ผมทำงานให้บ้างนะครับ” หรือ “ไม่เป็นไรครับ ถ้ามีทรัพย์อื่นใดอีก ขอให้ผมได้พิสูจน์การทำงานบ้างนะครับ” ลักษณะคำตอบเช่นนี้ แสดงถึงความจริงใจ และมีจรรยาบรรณของเอเจ้นโดยแท้

ถ้าเอเจ้นตอบกลับมาว่า “แหม น่าเสียดายจังค่ะ พอดีเรามีลูกค้าในมืออยู่แล้ว พี่เซ็นสัญญากับที่อื่นแล้ว เราเลยไม่สามารถส่งลูกค้าให้ได้นะคะ” ท่านคิดว่าถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เอเจ้นจะรอเวลาทำไม ควรจะรีบนำลูกค้ามาชมบ้านก่อนหน้านี้จริงมั้ยครับ พนักงานขายที่ดีต้องไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ถือว่าไร้จรรยาบรรณสิ้นดี วิญญาณพนักงานขายไม่มีใครที่จะนั่งรอเวลาปิดการขาย เมื่อมีลูกค้าที่สนใจสินค้าจะต้องรุกทันที

สัญญาปิด อย่าคิดว่าผูกมัด อันนี้สำคัญครับ การทำการตลาดอย่างจริงจัง ล้วนต้องมีค่าใช้จ่าย ซึ่งโดยปกติค่าใช้จ่ายการทำการตลาด จะไม่มีการเรียกเก็บจากผู้ขาย

ฉะนั้นการเซ็นสัญญาปิด(Exclusive)จะทำให้เอเจ้นเกิดความมั่นใจที่จะทำงานได้อย่างเต็มที่ กล้าที่จะลงทุนในการโฆษณาทำการตลาด
โดยทั่วไปการเซ็นสัญญาเปิด(Open)นั้น ผลดีจะตกอยู่กับเอเจ้น(มิใช่เจ้าของทรัพย์)!!!
เพราะจะทำให้คนทั่วไปเห็นว่า เอเจ้นคนนั้น ๆ มีทรัพย์ในมือมากมาย ซึ่งประเด็นสำคัญคือ การลงทุนในการทำการตลาดจะน้อยมากๆ การดูแลเอาใจใส่ในงานถูกปล่อยปละละเลย โฆษณาที่ลงประกาศไว้ไม่สามารถที่จะทำการอัพเดทได้ทั่วถึงทุกทรัพย์ สรุปคือแทบจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับทรัพย์นั้น ๆ !!!
เพราะเป็นการเซ็นแบบเปิด แค่เพียงรอจังหวะฟ้าประทานลูกค้ามาให้เท่านั้น เจ้าของทรัพย์มักจะคิดว่าสัญญาเปิด(Open)มีเอเจ้นมาขายให้หลายรายน่าจะดี แต่ความเป็นจริงท่านกำลังเอาทรัพย์ของท่านไปจมอยู่ในกอง listing โดยเปล่าประโยชน์

ที่กล่าวมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่งกับการตัดสินใจว่า จะเลือกเอเจ้นอย่างไร น่าจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะครับ
